5 เทรนด์ธุรกิจน่าจับตาปี 2569

  1. การพลิกโฉมธุรกิจด้วยดิจิทัล (Digital Transformation)

Digital Transformation คือกระบวนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ เพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานและส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้า โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า ในปี 2569 แนวคิดนี้จะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นจากการเป็นเพียงทางเลือกสู่การเป็นเงื่อนไขพื้นฐานของการอยู่รอดในโลกธุรกิจ

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการซื้อขายสินค้าและบริการ (E-commerce)
การนำระบบอัตโนมัติ (Automation) มาใช้ในสายการผลิตหรือการจัดการคลังสินค้า และที่สำคัญที่สุดคือการใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าในเชิงลึก ทำให้สามารถพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงจุดและสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น ธุรกิจที่ไม่ปรับตัวจะเผชิญกับความเสี่ยงที่จะสูญเสียลูกค้าและส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งที่ก้าวทันเทคโนโลยี

 

  1. ธุรกิจสีเขียวและความยั่งยืน (Green Business and Sustainability)

กระแสความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมได้ผลักดันให้ผู้บริโภคยุคใหม่หันมาให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธุรกิจสีเขียวและความยั่งยืนจึงไม่ใช่เป็นเพียงแค่การสร้างภาพลักษณ์ แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความไว้วางใจและความภักดีของลูกค้า เทรนด์นี้น่าลงทุนอย่างยิ่งเนื่องจากสอดคล้องกับทิศทางของโลกและนโยบายของหลายประเทศที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน

การดำเนินธุรกิจตามแนวทางนี้ครอบคลุมตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบรีไซเคิล การออกแบบกระบวนการผลิตเพื่อลดของเสียและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไปจนถึงการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีจริยธรรม ธุรกิจที่สามารถสื่อสารความมุ่งมั่นในด้านความยั่งยืนได้อย่างโปร่งใสและเป็นรูปธรรม จะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดและสามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ นอกจากนี้ ยังอาจนำไปสู่การลดต้นทุนในระยะยาวจากการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

 

  1. ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขุมพลังใหม่ของธุรกิจ

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) กำลังจะเข้ามาปฏิวัติวิธีการทำงานในเกือบทุกอุตสาหกรรม ความสามารถของ AI ในการเรียนรู้ วิเคราะห์ และตัดสินใจจากข้อมูลจำนวนมหาศาล ทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ ในปี 2569 การประยุกต์ใช้ AI จะมีความหลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับธุรกิจทุกขนาด

บทบาทของ AI ในธุรกิจมีตั้งแต่การช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดเพื่อค้นหาแนวโน้มที่ซ่อนอยู่, การพัฒนาระบบบริการลูกค้าอัตโนมัติ (Chatbot) ที่สามารถตอบคำถามและแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ตลอด 24 ชั่วโมงไปจนถึงการช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำ ธุรกิจที่สามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม จะสามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ดีกว่าคู่แข่งที่ยังคงอาศัยการทำงานในรูปแบบเดิม

 

 

 

 

  1. สังคมไร้เงินสดและระบบชำระเงินที่หลากหลาย (Cashless and Diverse Payment Systems)

แนวโน้มสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในตลาดที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว การพัฒนาระบบการชำระเงินออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของธุรกิจในยุคดิจิทัล เทรนด์นี้นับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายฐานลูกค้าออกไปนอกประเทศ

การสร้างระบบที่รองรับการชำระเงินได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต, E-wallet, หรือ QR Code Payment เป็นสิ่งจำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น นักท่องเที่ยวจากจีนและอินเดีย ที่คุ้นเคยกับการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ธุรกิจที่สามารถมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นและไร้รอยต่อ จะสามารถเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

  1. เทคโนโลยี IoT และการปฏิวัติระบบโลจิสติกส์

Internet of Things (IoT) หรือ “อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง” คือเครือข่ายของอุปกรณ์ต่างๆ
ที่เชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเก็บและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพสูงในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยเฉพาะในด้านการจัดการบริการและระบบโลจิสติกส์

การนำ IoT มาใช้ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามสถานะของสินค้าคงคลังได้แบบเรียลไทม์, ตรวจสอบสภาพของเครื่องจักรเพื่อวางแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน, หรือแม้กระทั่งสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้แก่ลูกค้า เช่น ระบบบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) เมื่อผนวกรวมกับระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเน้นความรวดเร็วและความแม่นยำในการจัดส่งสินค้า จะทำให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าในยุคที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วทันใจได้เป็นอย่างดี การลงทุนในเทคโนโลยี IoT และการปรับปรุงระบบขนส่งจึงเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จในธุรกิจยุคใหม่

 

ที่มา : https://kdc-x.com/uncategorized/business-trends-2026-thailand







9 ครั้ง

Address
สถาบันวิจัยและพัฒนา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
อาคารบูรณมงคล (อาคาร 32) ชั้น 8
เลขที่ 60 หมู่ 3 ถ.สายเอเซีย
(กรุงเทพฯ-นครสวรรค์) ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา
จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
035-709-097 หรือ 097-270-8866


Copyright ©2026 สถาบันวิจัยและพัฒนา | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ